วายร้ายในความทรงจำ : "ร็อบ ซาเวจ" แข้งที่ว่ากันว่า "สกปรกที่สุด" ในพรีเมียร์ลีก

สำหรับแฟนบอลรุ่นเก๋าที่ติดตามบอล พรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของอังกฤษ มาไม่ต่ำยิ่งกว่า 20-30 ปี คงจะทราบกันดีว่าพรีเมียร์ลีกในสมัยปลายทศวรรษที่ 90 ถึงต้นทศวรรษที่ 2000 นั้นช่างมีเสน่ห์ให้น่าคลั่งไคล้ และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เมื่อใดก็ตามถือหัวข้อนี้ขึ้นมาถกในวงเสวนาก็ยังคงสนุกสนานอยู่เป็นประจำไม่เคยเปลี่ยนแปลง

พรีเมียร์ลีกในสมัยดังที่กล่าวผ่านมาแล้วนั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นนานัปการคาแรคเตอร์ ทั้งยังเทวดาสุดหล่อขวัญใจผู้หญิง, ชายหนุ่มผู้ทุ่มเท, และก็ยังรวมทั้งดาวร้ายจอมกวนใจ ซึ่งถ้าเกิดเอ๋ยถึงดาวร้ายที่พรีเมียร์ลีกอังกฤษ คนไม่ใช่น้อยอาจจะคิดถึง “เครซี่กลุ่ม” ที่ก่อความกล้าหาญสุดฉาวเอาไว้มากในหน้าประวัติศาสตร์ แต่ว่านอกเหนือจากเหล่าคนวิกลจริตที่สมาคมวิมเบิลดันแล้ว ในระยะเวลาใกล้เคียงกันก็มีผู้เล่นอีกหนึ่งผู้ที่แสบสันไม่แพ้กัน ถึงกับขนาดที่โดนสื่อหลายสำนักชูให้เป็น “นักเตะที่เลอะเทอะที่สุดในพรีเมียร์ลีก” อย่างยิ่งจริงๆ ชื่อของเขาเป็น “ร็อบบี้ ซาเวจ”

เรื่องราวของเขาเป็นมายังไง? เพราะอะไรเขาก็เลยเป็นจอมเปรอะเปื้อนที่ไม่มีผู้ใดกล้าไม่ยอมรับ? แล้วก็ตัวตนที่จริงจริงของเขาคืออะไร? ติดตามพอดี Main Stand

มองผิวเผินก็เสมือนจะปกติ

ถ้าเกิดคุณกำลังมีความคิดว่ากำลังจะได้อ่านเรื่องราววัยเด็กสุดแสนเข้มข้นตื่นเต้นของดาวเตะรายนี้แล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่าคุณคิดผิด ด้วยเหตุว่าถึง ร็อบบี้ ซาเวจ จะลือชื่อสำหรับเพื่อการเป็นนักฟุตบอลจอมเลอะเทอะ แต่ว่าชีวิตนอกสนามในวัยเด็กของเขานั้นกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

“ตอนเด็กผมเป็นคนยังไม่มั่นใจในตนเอง”

“ผมแต่งงานที่ดี ป๊ะป๋าของผมเป็นวิศวกร มีพี่ชายที่แก่กว่า 4 ปี เขานี่แหละเป็นคนบังคับให้ผมออกไปเตะบอลที่ริมทาง ซึ่งมันเบาๆขัดเกลาให้ผมหนักแน่นขึ้น”

“ในทุกเช้าตรู่ป๊ะป๋าชอบตื่นตั้งแต่ตี 5 พาผมออกเดินทางไปทั่วราชอาณาจักรตามรายการแข่งบอลต่างๆรวมทั้งจะคอยตราบจนกระทั่งผมจะแข่งขันเสร็จก็เลยจะกลับไปอยู่ที่บ้านมากินอาหารเย็นร่วมกัน ซึ่งจำนวนมากก็ขว้างเข้าไป 4 ทุ่มแล้ว” ซาเวจ เล่าย้อนถึงเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กกับสื่อ The Guardianต่อจากนั้นชีวิตของ ซาเวจ ก็เติบโตขึ้นเรื่อยในทางสายบอล โดยไปสู่ชายคากลุ่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะนักฟุตบอลเยาวชน Class of ‘92 อันดัง แต่ฝีเท้าของเขาไม่สะดุดตาพอที่จะก้าวขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ จนกระทั่งฝืนใจย้ายออกสู่กลุ่มในระดับที่ถือว่าต่ำกว่าอย่าง คุณครูว์ อเล็กซานดร้า เพื่อหาช่องทางลงไปในสนาม แล้วก็ตรงนี้เองที่ฝีเท้าของเขาเริ่มเฉิดฉัน ซาเวจ โชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยมด้วยการลงเล่นในลีกไป 77 นัดหมาย ยิงได้ 10 ประตู ภายในช่วงเวลา 3 ปี

ด้วยฟอร์มการเล่นดังกล่าวมาแล้วข้างต้น สนามระดับลีกรองดูอย่างกับว่าจะเล็กสำหรับเขาไปเสียแล้ว ทำให้ในปี 1997 เลสเตอร์ สิตี้ กลุ่มในพรีเมียร์ลีก ตกลงใจคว้าตัวเขาไปร่วมกองทัพด้วยค่าตอบแทน 600,000 ปอนด์

แม้จะเข้าสู่สนามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่ว่าก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ซาเวจ เนื่องจากว่าเขาสามารถยืนระยะการค้าขายลำแข้งในระดับที่ถือว่าสูงได้นับ 10 ปี โดยแปลงสังกัดเดิมไปเรื่อยตามวิถีนักเตะ จาก เลสเตอร์ สิตี้ สู่ เบอร์มิงแฮม สิตี้ สู่ กางล็กเบิร์น โรเวอร์ส ก่อนที่จะห้อยสตั๊ดกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในปี 2011 ซึ่งไม่ว่าจะเล่นให้กับกลุ่มไหนเขาก็จุนเจือฟอร์มการเล่นอยู่ในระดับที่ดีได้ตลอด บางทีก็อาจจะไม่ถึงกับขนาดซูเปอร์สตาร์ประจำกลุ่ม แต่ว่าก็เป็นเฟืองชิ้นสำคัญที่จะจำเป็น

“ผมได้รับการส่งเสริมจากครอบครัวเสมอ พวกเขาไม่เคยริษยาในการบรรลุผลของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งป๊ะป๋า ตลอดเวลา 15 ปีสำหรับการเป็นนักเตะอาชีพของผม ท่านไม่เคยพลาดที่จะมองเกมที่ผมลงเตะเลยสักเกมเดียว”

ชีวิตของ ร็อบบี้ ซาเวจ นั้นช่างมองปกติ เติบโตในครอบครัวอบอุ่น คนที่อยู่รอบข้างส่งเสริม มีวิถีกิจการค้าหน้าแข้งที่ไม่หวือหวา แล้วเหตุไรกันเล่าเขาถึงแปลงเป็นนักฟุตบอลจอมเปรอะเปื้อนได้?

คนร้ายผู้หลักแหลมจริงๆ

หนึ่งสิ่งที่ยืนยันการเป็นนักฟุตบอลจอมเปรอะเปื้อนของ ซาเวจ ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นการที่เขาเป็นผู้ครอบครองสถิติผู้เล่นที่ได้รับใบเหลืองเยอะที่สุดชั่วกัลปวสานของพรีเมียร์ลีก ด้วยเยอะแยะถึง 87 ใบ


ดูบอลสด ผลบอลสด รับโปรโมชั่นพนันบอลดีๆ Linkballvpn

ความคิดเห็น